ต่อจากนี้ "โต ติงต๊อง" จะไม่เป็นตัวกลางแนะนำลูกจ้างให้นายจ้างอีกแล้ว เพราะจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน VLOG ตอนนี้ทำให้รู้สึกผิดเหลือเกิน...
เข้าใจนะว่ายุคสมัยมันเปลี่ยนทัศนคติของคนแต่ละรุ่นจึงไม่เหมือนกัน แต่การทำงานเป็นลูกจ้างยังถือเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงความเป็นผู้ใหญ่ที่รู้ผิดชอบชั่วดีไม่ว่ายุคสมัยจะล่วงเลยไปกี่ปีกี่ชาติก็ตาม การทำงานเป็นลูกจ้างแม้ไม่ใช่สิ่งที่นักศึกษาจบใหม่หรือกำลังเข้าสู่ตลาดแรงงานทุกคนไฝ่ฝันถึงแต่คุณจะได้ตระหนักถึงความสำคัญของความรับผิดชอบ ซึ่งเป็นสิ่งที่คนรอบข้างคุณทุกคนเขาคาดหวังจากคณ
ความรับผิดชอบในโลกของผู้ใหญ่ที่เป็นวิญญูชนผู้รู้ผิดชอบชั่วดีส่วนใหญ่คือการปฏิบัติตามสัญญาที่ให้ไว้กับทุกคนอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นปากเปล่าหรือลายลักษณ์อักษร แน่นอนว่าสิ่งที่ได้ทำสัญญากันไว้อาจมองแล้วไม่สมเหตุสมผลกับสถานการณ์ปัจจุบันอีกต่อไป แต่การเปลี่ยนสัญญาใด ๆ ใช่ว่าจะทำได้ง่ายเพียงเริ่มฝ่าฝืนแล้วค่อยเจรจาเหมือนกับเคสที่ "โต ติงต๊อง" นำมาเล่าให้ฟังใน VLOG ตอนนี้ มันมีขั้นมีตอนซึ่งถ้าทำอย่างถูกต้องเหมาะสมจะแทบไม่มีโอกาสแตกหักกับคู่สัญญาเลยจ้าาา
ดู Video Blog ได้ที่นี่
VLOG ตอนนี้ไม่มีอะไรมากเพราะเป็นผลพลอยได้จากออนไลน์คอร์ส "ปรับแต่งเสียงเพื่องานออนไลน์อย่างมืออาชีพ" ซึ่ง "โต ติงต๊อง" ตัดสินใจแกะ Mixer Yamaha MG10XU ให้ดูถึงคุณภาพอุปกรณ์ที่แสดงให้เห็นถึงการเป็นดาวค้างฟ้าของ Yamaha ในวงการเสียงมืออาชีพได้อย่างดี เมื่อออนไลน์คอร์สบทนี้เปิด Public ไปแล้วได้มีคนคอมเมนต์อยากให้ "โต ติงต๊อง" เปิด Mixer ขนาดเล็กของ Behringer ให้ดูบ้าง แม้ว่า "โต ติงต๊อง" จะไม่ได้รับการสนับสนุนใด ๆ จากผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย Behringer แต่ส่วนตัวมี Xenyx Q802USB อยู่ 1 ตัวจึงนำมาแกะและอธิบายคร่าว ๆ ให้ฟังกันจ้าาา
หมายเหตุ. อุปกรณ์ภายในได้ผ่านการอัพเกรดมาแล้วโดยเฉพาะตัวเก็บประจุ สินค้าที่ซื้อจากผู้นำเข้าหรือตัวแทนจำหน่ายจะมีความแตกต่างพอสมควร
ดู Video Blog ได้ที่นี่
เรื่องฟองน้ำหุ้มหูฟัง (Earpad) และจุกอุด In-Ear Monitor (Eartip) เป็นสิ่งที่ "โต ติงต๊อง" ถูกถามจากกลุ่มเล่นหูฟัง (Head-Fi) แทบทุกสัปดาห์ ยิ่งเวลาไปสิงสู่ตามร้านขาย Gadget นี่ยิ่งแล้วใหญ่ แม้คุณถาม "โต ติงต๊อง" ด้วยความคาดคั้นขนาดไหน มันก็ตอบได้แค่...
"ใช่ มันมีผลต่อคุณภาพเสียงอย่างชัดเจน"
แต่... การที่จะระบุชัดว่ามีความแตกต่างด้านคุณภาพเสียงอย่างไรนั้น... มันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เพราะสัมผัสการได้ยินของมนุษย์แต่ละคนไม่เหมือนกัน การเปลี่ยนฟองน้ำหุ้มหูฟัง (Earpad) หรือจุกอุด In-Ear Monitor (Eartip) แม้ปัจเจกบุคคลหนึ่งจะสามารถบรรยายความแตกต่างกับของเดิมได้ชัดเจนขนาดไหน มันยากมากที่คนอื่นที่มีของแบบเดียวกันจะรับรู้ถึงความแตกต่างที่เหมือนกันเป๊ะ ๆ ได้ จากสาเหตุนี้ "โต ติงต๊อง" จึงเลี่ยงไม่ทำ VLOG เรื่องนี้มาเป็นปี ๆ เพราะไม่อยากให้เกิดดราม่า
จนกระทั่ง "โต ติงต๊อง" ต้องเปลี่ยนฟองน้ำหุ้มหูฟังสำหรับ Studio Monitor Headphones ของตัวเอง... กว่าจะหา Earpad มาทดแทนแล้วได้ผลลัพธ์ที่พอใจได้มันยากพอสมควรและยังมีตัวแปรอื่น ๆ เข้ามาเกี่ยวข้องอีกพอสมควรด้วย
ใน VLOG ตอนนี้ เรามาคุยกันเรื่องฟองน้ำหุ้มหูฟัง (Earpad) และจุกอุด In-Ear Monitor กันดีกว่า แต่จะไม่ได้คุยนะว่ายี่ห้อนี้รุ่นนี้เสียงเป็นอย่างไร ขอให้เฉพาะข้อมูลรูปธรรมที่สามารถพิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์ก็แล้วกันจ้าาาา
ดู Video Blog ได้ที่นี่
สำหรับ "โต ติงต๊อง" การจัดสเปกเครื่องคอมพิวเตอร์ให้ลูกค้าไม่ว่าจะเป็น PC หรือ MAC ในงานโปรดักชั่น แม้จะคุยง่ายกว่าการเลือกซื้อ UPS ให้เหมาะสมกับลักษณะงาน (EP599) แต่การตัดงบประมาณใน Hardware บางชิ้นของคอมพิวเตอร์เครื่องใด ๆ ยังเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แถมปัจจุบันนี้ลูกค้าส่วนใหญ่ของ "โต ติงต๊อง" คิดว่าตัวเองเข้าใจความสำคัญของ Hardware แต่ละชิ้นของเครื่องคอมพิวเตอร์แล้วด้วยเนี่ย... ทำให้การตัดงบประมาณของลูกค้าไปลงกับ Hardware ที่ลูกค้าเข้าใจน้อยหรือยากที่สุด นั่นคือ RAM
ลองคิดตาม "โต ติงต๊อง" ดูนะว่า... CPU ยิ่งใช้แพงยิ่งประมวลผลได้เร็ว, GPU (การ์ดจอ) ยิ่งใช้แพงยิ่งทำ Graphic ได้เร็วและซับซ้อนขึ้น, Storage (HDD / SSD) ยิ่งเยอะยิ่งเก็บข้อมูลได้มาก, Monitor ยิ่งแพงจอยิ่งใหญ่ความละเอียดสูงขึ้นค่าสีตรงขึ้น ฯลฯ แล้วแรมล่ะ... จ่ายเยอะแล้วได้อะไร? หรือ จ่ายน้อยลงแล้วจะเสียอะไรไปบ้าง?
ใน VLOG ตอนนี้ "โต ติงต๊อง" จะอธิบายการทำงานของ RAM ให้ฟังกันอย่างผิวเผินและจะทดลองใส่ขนาดต่าง ๆ ลงในเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องเดียวกัน (8 GB / 16 GB / 32 GB) เพื่อแสดงให้เห็นกันไปเลยว่ามีอะไรดีขึ้นหรือแย่ลงจ้าาาา
ดู Video Blog ได้ที่นี่
หลายคนที่รู้จัก "โต ติงต๊อง" จะพอรู้ว่า "โต ติงต๊อง" สะสมไมโครโฟนเป็นงานอดิเรก และถ้ามีโอกาสมาเยี่ยมคอนโดจะรู้แทบทันทีว่า "โต ติงต๊อง" จำไม่ค่อยได้ว่าเก็บไมโครโฟนไว้กี่ตัว, มีกี่รุ่น และเก็บไว้ตรงไหน อย่างใน VLOG ตอนนี้ก็เช่นกัน ถ้า "โต ติงต๊อง" ไม่ตัดสินใจเปิดลิ้นชักกันความชื้นออกมาผึ่งแดดจะจำไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเก็บสะสมไมโครโฟนที่มีอายุเกือบ 40 ปีไว้ 2 ตัว ซึ่งมันก็คือ Sennheiser MD 431 profipower ที่ถูกขนานนามว่าเป็นไมโครโฟนสำหรับร้องและพูดในงานแสดงสดที่ดีที่สุดในยุคนั้น
ดังนั้น... ในเมื่อหาเจอและเอามาปัดฝุ่นแล้ว "โต ติงต๊อง" จะเอามาโชว์ให้ดูเลยก็แล้วกันว่าทำไมจึงตัดสินใจเก็บสะสมไมโครโฟนรุ่นนี้และคุณภาพงานผลิตแบบไม่ลดสเปกของ Sennheiser ในยุคสงครามเย็นมันเป็นอย่างไรจ้าาา
ดู Video Blog ได้ที่นี่